ประวัติศาสตร์
![71FgdcGDLCL._SL1500_.jpg](https://static.wixstatic.com/media/92abd7_82b011dd98004521aa1e93ab079d2f43~mv2.jpg/v1/fill/w_619,h_362,al_c,q_80,usm_0.66_1.00_0.01,enc_avif,quality_auto/71FgdcGDLCL__SL1500_.jpg)
เวนอลเริ่มก่อตั้งอารยธรรมเป็นชาติแรกๆ ว่ากันว่าเป็นชนเผ่าที่อพยพลงมาจากทางเหนือ ตำนานกล่าวว่าปฐมราชาของเวนอลผู้ซึ่งได้รับการอำนวยพรจากเทพีแห่งจันทราได้นำทัพรบชนะคนเถื่อนหลายเผ่า และขับไล่พวกเขาจากที่ซึ่งเป็นเวนอลปัจจุบัน จากนั้นในยุคต่อมาเวนอลก็ขยับขยายขอบเขตอำนาจปกครองจนกลายเป็นจักรวรรดิเช่นทุกวันนี้
ประวัติศาสตร์ยุคแรกเริ่ม
![16270444581760.jpeg](https://static.wixstatic.com/media/92abd7_c7a5dfda22ed4685b5d70f409c21edfc~mv2.png/v1/fill/w_626,h_360,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_avif,quality_auto/16270444581760.png)
ประวัติศาสตร์ซึ่งเกี่ยวกับตำนานความเชื่อและศาสนาในยุคแรก
มีการพบหลักฐานว่าคนเวนอลบูชาดวงจันทร์ตั้งแต่ยุคก่อนบันทึกประวัติศาสตร์ และมีตำนานที่กล่าวว่าในยุคเริ่มตั้งถิ่นฐานของราชาคนแรก เทพีได้อวยพรแก่แผ่นดินโดยการแผลงศรศศิธรเล็งไปบนยอดเขา ก่อเกิดเป็นแม่น้ำไหลลงมาสู่ผืนดิน หล่อเลี้ยงให้เขียวขจีเหมาะสมแก่การเพาะปลูก นางวาดมือผ่านเทือกเขาตะวันตก มอบอัญมณีเพื่อความมั่งคั่ง และได้มอบสัตว์พาหนะของตน มังกรจันทรา ให้มาเป็นผู้พิทักษ์แห่งเวนอล เหตุนี้วิถีชีวิตของชาวเวนอลแต่โบราณจึงวนเวียนรอบพระจันทร์และเทพีแห่งจันทรา ว่ากันว่าชื่อ เวนอล เป็นพระนามของเทพีจันทราซึ่งได้ประทานแก่ประเทศในความคุ้มครองที่รักและโปรดปราน
มีความเชื่อว่าแท้จริงแล้วปฐมราชาในตำนานของเวนอลเป็นคนรักของเทพีเวนอล เช่นนั้นพระนางจึงมอบแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ให้แก่เขาและหลั่งน้ำตายามเขาตาย และมีความเชื่ออีกว่าทายาทของราชาในตำนานคือสายเลือดครึ่งเทพของเทพีจันทรา แต่ทว่าความเชื่อนี้ไม่ได้รับการยอมรับจากทางวิหารเพราะถือเป็นการลบหลู่เทพและเป็นความเชื่อนอกรีต ทำให้ไม่ถูกพูดถึงมาตั้งแต่สมัยโบราณ
![unnamed (6).jpg](https://static.wixstatic.com/media/92abd7_d28e6b3491ae40219fe26e94660df5e4~mv2.jpg/v1/fill/w_619,h_348,al_c,lg_1,q_80,enc_avif,quality_auto/unnamed%20(6).jpg)
ประวัติศาสตร์ยุคหลังกลายเป็นจักรวรรดิ
ชาวเวนอลนั้นตั้งแต่ยุคโบราณก็ถือตนว่าเป็นผู้ที่มีอารยะสูงส่งเหนือผู้อื่น
ในยุคหลังเป็นจักรวรรดิ ชนเผ่าที่อยู่รอบด้านพยายามที่จะรุกรานเวนอล ทว่าไม่มีครั้งใดที่รุกรานสำเร็จ เพราะเวนอลในยุคนั้นมีความพร้อมทางการทหารและวิทยาการที่เหนือกว่า ดังนั้นชาวเวนอลส่วนมากจึงดูแคลนความป่าเถื่อนและความไร้อารยะ
อีกทั้งอาคารและรูปปั้นในยุคที่เวนอลรุ่งเรืองถึงขีดสุดล้วนถูกสร้างอย่างวิจิตร ใหญ่โต (เช่นรูปปั้นมังกรจันทราผู้พิทักษ์สูงกว่า100เมตรสองตัวที่หน้าประตูเมืองหลวง) ตกแต่งด้วยแร่ล้ำค่าและอัญมณี อันเป็นที่ตื่นตาตรึงใจ และแสดงให้ผู้มาเยือนเห็นถึงความยิ่งใหญ่ ความก้าวหน้าทางสถาปัตยกรรมและศิลปวิทยาการ
ประวัติศาสตร์หลังจากนั้นของเวนอลยังคงรุ่งเรืองเนื่องด้วยความสมบูรณ์พร้อมทางทรัพยากรและการค้าที่โดดเด่น ทว่าปัญหาภายในของเวนอลมีมากมาย จนมีการกล่าวในบันทึกประวัติศาสตร์ไว้ว่า "ยุคหนึ่งเกิดการรบรา อีกยุคฤๅเกิดการกบฎ และเมื่อรัชสมัยบรรจบครบ กลับต้องพบกลียุคกันอีกครา" เพราะปัญหาการเมืองภายในอันซับซ้อนทำให้เกิดขั้วอำนาจหลายฝ่าย ซึ่งปัญหายังตกค้างไม่คลี่คลายจวบจนยุคปัจจุบัน เป็นเหตุให้จักรวรรดิซึ่ง “สมบูรณ์พร้อม” ไม่อาจเติบโต และกลายเป็นถดถอยลง จนประเทศอื่นพัฒนาไล่ทัน ปัจจุบันแม้ไม่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศซึ่งรุ่งเรืองที่สุดแต่ก็ยังดำรงชื่อจักรวรรดิและมีอำนาจพอสมควร
ในยุคแรก ที่นิยมส่งรัชทายาทออกไปเร่ร่อนเพื่อพิสูจน์ตนก็เพื่อหาทางเอารัชทายาทออกจากวังเพื่อให้พ้นมือขุนนางและผู้ไม่ประสงค์ดีเสียมากกว่า