วัฒนธรรม
‘ เมืองที่เสียงดนตรีไม่เคยหยุดบรรเลง’ ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินไปหากพูดถึงเวนอล
เมื่อเดินผ่านท้องถนนในเมือง ข้าพเจ้ามักจะได้ยินเสียงดนตรีของวณิพกแว่วเคล้ามาตามสายลมพร้อมกับกลิ่นหอมเจือจางของดอกไม้ อีกทั้งภาพของนางรำที่เคลื่อนไหวกายตามจังหวะดนตรีก็ช่างสวยงามสบายตา’
-พารัล เดอะไรท์เตอร์ออฟเวนอล จาก ‘ครั้งหนึ่งในเวนอล’
![Image by malith d karunarathne](https://static.wixstatic.com/media/nsplsh_5f36068525c74609aa5a7b283c15d45b~mv2.jpg/v1/fill/w_651,h_400,al_c,q_80,usm_0.66_1.00_0.01,enc_avif,quality_auto/nsplsh_5f36068525c74609aa5a7b283c15d45b~mv2.jpg)
![unnamed (19).jpg](https://static.wixstatic.com/media/92abd7_5cc308a7c6e54488aacc1063914d771f~mv2.jpg/v1/fill/w_387,h_512,al_c,q_80,enc_avif,quality_auto/unnamed%20(19).jpg)
![unnamed (18).jpg](https://static.wixstatic.com/media/92abd7_5c7e31786e5a4931b00b08ffe778a6d8~mv2.jpg/v1/fill/w_512,h_353,al_c,q_80,enc_avif,quality_auto/unnamed%20(18).jpg)
ค่านิยม
-
ชาวเวนอลส่วนมากมีความชื่นชมในงานศิลป์สูง กิจกรรมผ่อนคลายที่ชาวเวนอลชื่นชอบ คือการชื่นชมศิลปะเช่นการรำ ดนตรี ละครเพลง และอื่นๆ
-
ในสมัยก่อนชาวเวนอลใช้ปฏิทินที่อิงข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์ แต่ในยุคหลังก็ปรับมาใช้แบบเดียวกับเอเดนให้เป็นหลักสากล กระนั้นในยุคนี้คนเก่าคนแก่บางคนก็ยังเผลอเรียกวันเดือนตามปฏิทินเก่า เช่น ขึ้นสิบห้าค่ำ หรือ แรมสี่ค่ำ แล้วตามด้วยชื่อเดือน
-
ชาวเวนอลถือว่าการให้ของขวัญเป็นอัญมณีมีความหมายแฝง มักนำมาใช้ทั้งในการเกี้ยวพาราสีและในเกมการเมือง ซึ่งบางครั้งอัญมณีชิ้นหนึ่งก็ตีความได้หลายความหมาย
-
การจ่ายค่างานศิลปะด้วยอัญมณีถือเป็นการให้เกียรติศิลปินเพราะมีคำกล่าวแต่โบราณว่า ศิลปะที่ดีมีค่ามากกว่าเงิน
-
ชนชั้นสูงมีค่านิยมจัดงานเลี้ยงในโอกาสสำคัญ มักมีการจ้างศิลปินมาสร้างความรื่นเริง โดยหากการแสดงเป็นที่ถูกใจ จะนิยมตกรางวัลเป็นอัญมณีที่ถูกเจียระไนแล้ว
-
ในคืนที่มีพระจันทร์ชาวเวนอลจะทักทายยามค่ำกันด้วยคำว่า ‘จันทราสวัสดิ์’
-
ชาวเวนอลมีธรรมเนียมการขอหมั้นหมายด้วยการมอบเครื่องประดับผมที่มีอัญมณีสีชมพู (เช่นปิ่นปักผม เครื่องประดับติดผม เป็นต้น)
-
ชาวเวนอลส่วนมากและทุกชนชั้นนิยมเล่นดนตรีกันเป็นงานอดิเรก ไม่ว่าจะในเมืองใหญ่หรือชานเมืองก็มักจะได้ยินเสียงดนตรีเสมอ
-
ชาวเวนอลส่วนมากนิยมเครื่องประดับที่มีลวดลายและรายละเอียดซับซ้อนสวยงาม ทำจากแร่มีค่าและอัญมณี
-
ชาวเวนอลส่วนมากถือตนเป็นผู้มีอารยะสูงส่งเหนือประเทศอื่น และค่อนข้างเหยียดหยามความป่าเถื่อน เช่นการต่อสู้ฆ่าฟันเพื่อความบันเทิง ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของความไร้อารยะ
-
ชาวเวนอลมีความหยิ่งในชาติ มีคำกล่าวว่าเลือดเวนอลควรหลั่งให้ความรุ่งเรืองหรือเพื่อปกป้องจักรวรรดิเท่านั้น สะท้อนแนวคิดชาตินิยมที่แม้ไม่นิยมความรุนแรง แต่ก็เย่อหยิ่งในเกียรติและศักดิ์ศรี
-
สตรีเวนอลนิยมใช้ภาษาพัดในการสื่อสารและสื่อความหมายต่างๆ ที่ไม่อาจพูดออกมาโดยตรง ซึ่งจะมีสอนอยู่ในคลาสมารยาทพื้นฐานตามโรงเรียนต่างๆ (Reference: ภาษาพัดในยุควิคตอเรียน)
-
เวนอลโดดเด่นด้านการรำ การดนตรี กวี และงานฝีมือ
-
เอกลักษณ์งานปั้นเวนอลคือมักมีส่วนประกอบของอัญมณีฝังอยู่ เช่นใช้แทนตา เครื่องประดับ และอื่น
สถาปัตยกรรม
-
อาคารหลักเช่น วิหาร วัง และอื่นๆ มักเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่มีอายุหลายร้อยปี หลังคาเป็นทรงโดม แสดงถึงความก้าวหน้าในศิลปวิทยาการ ตกแต่งด้วยภาพเขียนฝาผนัง กระเบื้องโมเสก อัญมณี และแร่ล้ำค่า
-
จักรวรรดิอนุรักษ์สถาปัตยกรรมยุคเก่าเพราะถือเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ในอดีต อาคารขนาดมโหฬารเหล่านี้ยังคงถูกใช้งานอยู่ในยุคปัจจุบัน
-
เทพธิดาและมังกรจันทรามักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์สำหรับตกแต่งสถานที่สำคัญ และตามถนนสายหลัก เช่น รูปสลักที่น้ำพุในจตุรัสศิลปะ รูปปั้นมังกรจันทราหน้าประตูเมือง และอื่นๆ
-
ในเขตปกครองที่มีเทือกเขา มีงานแกะสลักหินพบเห็นได้ทั่วไปทั้งรูปปั้นและอาคาร ว่ากันว่าในยุคที่เวนอลรุ่งเรืองถึงขีดสุด กลุ่มศิลปินช่างสลักแห่งยุคได้สลักรูปปั้นมังกรจันทราผู้พิทักษ์ขนาดยักษ์ลงบนเทือกเขาแถวทางแม่น้ำไหลผ่านทิศตะวันออก เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ความเป็นมหาอำนาจ ในปัจจุบันรูปสลักกลายเป็นสัญลักษณ์แทนความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ
การรำจันทรา
รำจันทราเป็นงานศิลป์ขั้นสูงมีเฉพาะในเวนอล ซึ่งผสมผสานการร่ายรำกับศาสตร์เวทมนตร์ ต้องรำพร้อมคทาเวทและเสกสายน้ำใช้แทนผ้า ค่าจ้างของการเชิญนางรำจันทราไปเปิดการแสดงสูงมากเพราะพวกนางรับเป็นอัญมณีเกรดดีเท่านั้นไม่รับเงินทอง เนื่องด้วยค่านิยมศิลปะที่ดีมีค่ามากกว่าเงิน ศิลปะแขนงนี้ต้องฝึกฝนตั้งแต่เด็กจึงจะมีความสามารถเพียงพอที่จะร่ายรำ ปกติแล้วในหนึ่งยุคสมัยมีนางรำจันทราเพียงไม่กี่คนที่ฝึกสำเร็จ นางรำพวกนี้จะได้รับฉายาว่า The Moon Dancer of Venol
แต่โบราณมาชาวเวนอลเชื่อว่าการประกอบพิธีรำบูชาเทพธิดาแห่งดวงจันทร์จำต้องมีนางรำจันทราผู้สามารถร่ายรำเหนือผิวน้ำเป็นผู้ประกอบพิธี ยุคใดที่ไม่มีจะถือว่าเป็นยุคซึ่งดวงเมืองตกต่ำหรือกลียุค จึงเป็นอาชีพที่สำคัญ แม้ในยุคปัจจุบันความเชื่อเรื่องกลียุคและดวงเมืองจะไม่มีอีกแล้ว กระนั้นนางรำจันทราก็ยังเป็นอาชีพที่สำคัญสำหรับวัฒนธรรมชาวเวนอลอยู่ดี
เกร็ดเสริม
-
ทะเลสาบทั้งห้านั้น ตำนานเล่าว่าเป็นหยาดน้ำตาของเทพีเวนอลที่หลั่งให้แก่ความตายขององค์ปฐมราชา
-
หาหญ้าแสงจันทร์ได้ตามธรรมชาติ อีกทั้งมีการปลูกทุ่งหญ้าแสงจันทร์ไว้สำหรับฟาร์มเลี้ยงมังกรจันทรา
-
เพชรจันทราสามารถหาได้ในเหมืองเวนอลในเขตเธติสเท่านั้น เป็นเพชรที่เมื่อต้องสะท้อนแสงจันทร์แล้วจะเรืองแสงเป็นประกายเหลือบรุ้ง และยังเป็นเพชรยอดมงกุฎจักรพรรดินี
-
อัญมณีน้ำงามมีชื่อหลายชิ้นเคยถูกขุดค้นพบในเหมืองเวนอล หนึ่งในนั้นคือเพชรจันทราขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Moon’s Blessing ปัจจุบันประดับอยู่บนคทาจักรพรรดิ
-
ว่ากันว่าพระจันทร์ในเวนอลนั้นส่องแสงสว่างสุกสกาวที่สุดเพราะคำอำนวยพรจากเทพีแห่งดวงจันทร์
![unnamed (20).jpg](https://static.wixstatic.com/media/92abd7_bdf8d67ba00b419999cf389d1982870e~mv2.jpg/v1/fill/w_512,h_326,al_c,q_80,enc_avif,quality_auto/unnamed%20(20).jpg)
![unnamed (21).jpg](https://static.wixstatic.com/media/92abd7_3533b784bea44123857bff2d71bfdfcb~mv2.jpg/v1/fill/w_189,h_512,al_c,q_80,enc_avif,quality_auto/unnamed%20(21).jpg)